Pages - Menu

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2559

วังเวียงมีอะไร ทำไมใครๆ ก็ไปกัน ตอน 2

ถึงวังเวียงแล้วพวกเราพักกันที่ ถาวรสุขรีสอร์ท นับว่าเป็นที่พักที่วิวสวยเพราะตั้งอยู่ริมแม่น้ำซอง เห็นทิเขาสลับอยู่เบื้่องหน้า อากาศก็เย็นสบาย ค่าที่พัก 2 คืน เราเสียกันไปตกคนละ 1,700 บาท นอนห้องละ 2 คนก็นับว่าโหดเอาเรื่อง



อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จพวกเราก็ออกไปหาของกินกัน ตลอดแนวข้างทางมีร้านข้าวจี่อยู่หลายร้าน ข้าวจี่ที่ลาวเรามองยังไงมันก็คือแซนวิชแต่ที่นั่นจะเรียกว่าข้าวจี่

พวกเราฝากท้องไว้ที่ร้านส้มตำร้านนึง อาหารอีสานก็เหมือนบ้านเราแต่รสชาติจัดจ้านกว่า ส้มตำที่นี่แซ่บมากๆ จิบเบียร์ลาวกันอีกคนละนิดหน่อย มาที่ลาวยังไงก็ต้องลอง คืนแรกยังไม่ดีดกันเท่าไหร่ ยังเพลียกับการเดินทางกันอยู่ กินข้าวเสร็จเราก็เดินหา Day trip สำหรับวันรุ่งขึ้น คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 350 บาทได้ มีพายเรือคายัค ถ้ำน้ำ บลูลากูน ที่จริงอยากจะเล่น Zipline ด้วยแต่มีน้องคนนึงกลัวความสูงชนิดที่ว่าบิ้วยังไงก็ไม่ขึ้น ไม่เป็นไรไว้ครั้งหน้าค่อยมาเล่นใหม่ก็ได้



วังรุ่งขึ้นพวกเราตื่นมากันแต่เช้า มาถ่ายรูปเล่น บรรยากาศที่นี่ดีมากจริงๆ วิวสวยสุดบรรยาย ถ่ายรูปได้ไม่มีเบื่อ หนำใจกันแล้วก็กินข้าวเช้ารอทัวร์มารับ




ประเดิมทริปกันด้วยการพายคายัค เราไม่เคยพายมาก่อนแต่ดีหน่อยที่ได้จับคู่กับไกด์ ระหว่างการล่องแม่น้ำก็ได้คุยกับไกด์ได้ความว่าถ้าจะให้มันต้องมาช่วงสงกรานต์ เพราะช่วงนั้นน้ำจะแรง ถ้าเรือคว่ำทีน้ำจะพาตัวเราไปไกล ได้แต่คิดว่าอย่าคว่ำเลย ว่ายน้ำก็ไม่เป็น อ้วนก็อ้วนตกน้ำทีแล้วจะปีนขึ้นเรือได้มั้ยเนี่ย

เสร็จจากพายคายัคก็ไปล่องห่วงยางเข้าถ้ำน้ำ ในถ้ำมีอะไรบ้างไม่ค่อยได้มองมัวแต่ก้มหน้าก้มตาสาวเชือกให้ทันเค้า กลับตัวหมุนตัวไปมาแถมสายรัดไฟฉายคาดหัวก็ดันมาหลุดอีก ห้อยโตงเตงปิดหน้าปิดตา มองก็ไม่เห็นแต่ก็สนุกนะ น้ำเย็นดี ทำอยู่สองอย่างคือหัวเราะแล้วก็บอกรอด้วยๆ ขากลับออกมาจากถ้ำแขนล้า เลยเอาขาหนีบกับเท้าพี่ผู้ชายคนนึงออกมา ไม่รู้จักเค้าอีกต่างหากแต่อาศัยแรงเขาเกาะๆกันไป ขอบคุณพี่เค้าตอนออกมา ต่างคนต่างหัวเราะสนุกดี ขึ้นจากน้ำเย็นๆ ก็กินอาหารกลางวันที่ทางทัวร์เตรียมไว้ให้ ก็ข้าวจี่อีกนั่นแหละ มาวังเวียงมันก็ต้องข้าวจี่ ห้ามพลาด!!

จากนั้นก็ไปต่อกันที่บลูลากูน ทางโหดพอตัวใครปั่นจักรยานมาจากในตัววังเวียงนี่ยอมใจ มันไกลอยู่นะแต่ข้างทางก็วิวสวยดี ถ้าแดดไม่ร้อนไม่รีบก็ปั่นมาชิลๆ ถึงเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ตอนนี้ได้ยินแว่วๆมาว่า ทางไปบลูลากูนลาดเป็นถนนปูนแล้ว ความจริงตอนเราไปเค้าก็กำลังเททรายก็คงจะทำถนนนี่แหละ ความจริงไอ้ทางหลุมๆบ่อๆนี่มันก็เป็นเสน่ห์ดีเหมือนกันนะ แต่ว่าคนพื้นที่เค้าอาจจะต้องการให้มันสะดวกกับตัวเขาแล้วก็นักท่องเที่ยวมากกว่า


ที่บลูลากูนคึกคักมาก ทั้งต่างชาติทั้งคนไทยเต็มไปหมด โดดน้ำเล่นกันตูมๆ แต่ว่าเราใจไม่ถึงได้แต่ดูพวกเขากัน แล้วก็คงเล่นน้ำอยู่แถวนั้นพักนึงก็เปลี่ยนไปเล่นสไลด์เดอร์อีกฝั่งนึง 40 บาทกี่รอบก็ได้ มันส์ดีเหมือนกัน จัดไปหลายรอบอยู่

กลับถึงที่พัก 5 โมงเย็นได้ อาบน้ำแล้วหาอะไรกินกันตามเคยแต่วันนี้ไปนั่งกินที่บาร์ริมน้ำ แช่ขาทอดอารมณ์ทุกอย่างเพอร์เฟคยกเว้นอาหารที่รอนานมากก.ก.ก.ก.ก   กินอาหารไป เผาหัวกันไปได้ที่พอหัวเราะเอิ๊กอ๊ากก็เดินไปต่อกันที่ ซากุระ บาร์ ใครไม่มานี่ถือว่ามาไม่ถึงวังเวียงนะ ฉ่ำกันได้ที่ก็พากันลากกลับที่พัก นอนหลับสบาย zzzz

เช้ามาฝนตกแต่เช้า เจอฝนทั้งไปทั้งกลับเลยนะเนี่ย พอฝนซาก็ออกมาถ่ายรูปเล่นอีก นั่งมองวิวซึมซับบรรยากาศให้มากที่สุด ยังเที่ยวไม่ทั่ววังเวียงเลย มันยังไม่จุใจแต่ก็ถึงเวลาที่ต้องกลับสู่โลกแห่งการทำงานแล้ว
Bye bye วังเวียง เราต้องได้พบกันอีกแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น